สนับสนุนบทความดีๆ โดย @ma5bot มหาบอท X Meawbin Investor ซอฟแวร์อัจฉริยะ ช่วยเทรดคริปโต 24 ชม.
MA5BOT มหาบอท ใช้ชีวิตให้มีกำไร
เริ่มจากทำไมต้องใช้ MA5 Bot Rebalance ก่อนตลาด Crypto เปิด 24 ชั่วโมง 7 วัน และในหนึ่งวันบางเหรียญวิ่งผันผวนไปมามากกว่า 30% เป็นอย่างน้อย
สั้นๆเลยครับ
MA5 Bot บอทเทรดคริปโตเคอเรนซี่อันดับหนึ่งของเมืองไทย เทรดได้ 24 ชั่วโมง
ปล่อยให้บอททำงาน แล้วเอาเวลาไปใช้ชีวิตดีกว่า
ทำไมต้อง MA5 Bot Rebalance
หากใครได้ตามเพจ Meawbin Investor – เทรด ลงทุน เชิงกลยุทธ์ มาแล้ว หรือได้ดู VDO สอนการทำ Rebalance เชิงลึกมาแล้วจะเข้าใจว่าการทำ Rebalance ที่ดีนั้นเราต้องปรับแต่งค่า ปรับสัดส่วนต่างๆให้เหมาะสมกับสินทรัพย์แต่ละชนิดที่เราเลือก หรือแต่ละช่วงสภาวะตลาดอย่างเหมาะสม
บอทอื่นๆทั่วไปคุณอาจไม่สามารถปรับค่าอะไรได้เลย หรือปรับได้ก็ไม่ครบในหลายองค์ประกอบที่จำเป็น
MA5 Bot Rebalance คุณสามารถปรับแต่งได้หลากหลาย สามารถทำ Dynamic Rebalance ได้ ที่สำคัญคือปรับได้ตลอดเวลาเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละสภาวะตลาดอย่างทันท่วงที และมี UI Interface รายงานผลการเทรดที่สวยงาม ใช้งานง่าย
เทคนิคการตั้งค่าอย่างไร
เลือกเหรียญดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
ผมมักจะเปรียบเทียบว่าการลงทุน Rebalancing เหมือนกับการเปิดร้านขายของ เปิดกิจการส่วนตัว การเลือกสินค้าที่เราจะขายจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ
มั่นคง ยืนยาว ความเสี่ยงต่ำ
ให้เลือกเหรียญในกลุ่ม Top 10 Market Cap เหรียญขนาดใหญ่ที่มั่นคง มีแนวโน้มที่ดี แต่มีความผันผวนน้อยทำให้ Cash Flow ที่ทำได้ไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่เสี่ยงมากเช่นกัน
กำไรดี Cash Flow เยอะ มีโอกาสโตหลายเท่า
ให้เลือกเหรียญที่เป็นกระแส กำลังดัง มีการเปลี่ยนแปลงอันดับที่รวดเร็ว ทำให้เหรียญในกลุ่มนี้มีความผันผวนสูง ทำรอบได้บ่อย ได้ Cash Flow เยอะ แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่มากขึ้น มีโอกาสจะได้กำไรหลายเท่าแต่ก็มีโอกาสจะขาดทุนทั้งหมดจากราคาเหรียญที่ตกลงระยะยาวด้วยเช่นกัน
Fix or Ratio เลือกแบบไหนดี
ทบทวนกันอีกครั้งว่า กำไรที่เกิดจากกระบวนการทำ Rebalancing จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ส่วนคือ
Cash Flow — กระแสเงินสด ส่วนเกินทุน เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
Capital Gain — การเติบโตของพอร์ต มาจากราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น จะเกิดเมื่อเราขายสินทรัพย์ทั้งหมด
ทั้ง Fix และ Ratio สามารถทำกำไรได้ทั้ง 2 ส่วนเช่นกันแต่จะมีความโดดเด่นต่างกันในแต่ละด้าน ดังนั้นคำถามนี้จึงต้องเริ่มจากความชัดเจนของผู้ลงทุนก่อนว่าต้องการโฟกัสที่ส่วนไหนเป็นหลัก
ต้องการ Cash Flow เยอะ — เลือก Fix
ต้องการ Capital Gain เยอะ — เลือก Ratio
Fix Value
ทำงานได้ดีในตลาด Side way
เก็บรอบได้มากกว่า
ขาลงใช้ทรัพยากรเยอะกว่า Recovery เร็วกว่า
ขาขึ้นขายของ ออกเร็วกว่า ของหมดไว้ ดึงทุนออกได้ไว
Ratio Percent
ทำงานได้ดีกว่าบน Trend
เทรดได้เรื่อยๆ ถึง 0 ไม่มีวันเงินหมด
ยืดระยะการถือ ออกไปได้ไกลกว่า
Asset เติบโตได้มากกว่า เพราะเหลือของ มากกว่าเสมอ
ทบต้น หรือ ปรับสันส่วน อัตโนมัติ
ปรับสัดส่วนยังไง แบบไหนดี
เรื่องของการปรับสัดส่วนเป็นอะไรที่เรียบง่ายมากเพราะมันคือสัดส่วนระหว่างเงินทุกสำรอง กับสินทรัพย์ที่เราถืออยู่
ถือ Asset เยอะ — เสี่ยงมากกว่า โตไวกว่า
ถือ Asset น้อย— โตไวช้ากว่า เสี่ยงน้อยกว่า
เทคนิส่วนตัวของผมคือ ปรับไปตามความเหมาะสม ตามสภาวะตลาดร่วมด้วย นักลงทุนที่ดีต้องมีความสามารถในการปรับสัดส่วนที่ดี เช่น ถ้าตลาดกำลังเป็นเทรนขาขึ้น ก็ควรปรับสัดส่วนมากขึ้น
Trigger แบบไหนที่ใช่
Time : ได้ผลลัพธ์แบบ “สุ่ม” ดีบ้างร้ายบ้าง แต่ไม่ต้องคิดอะไรมาก
Percent % : ได้ผลลัพธ์แบบ “ค่าเฉลี่ย” ส่วนตัวแนะนำแบบนี้เพราะอยู่ในระดับกลางๆ น่าพอใจ และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ง่ายจากการปรับเพิ่มลด % ให้เข้ากับสภาวะตลาด
Technical Signal : ได้ผลลัพธ์แบบ “ตามฝีมือ” มีโอกาสเป็นได้ทั้ง ดีกว่า และแย่กว่าค่าเฉลี่ย ถ้าเลือกใช้ได้ถูกต้องและเชี่ยวชาญจะทำกำไรได้มากขึ้น
ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ
สนใจสอบถามรายละเอียดการใช้ MA5BOT
ติดต่อ LINE OA: @ma5bot
LINE OA: https://lin.ee/0OinA7X
ติดตามข้อมูลอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับ Crypto ในทุกช่องทางและเข้าร่วมกลุ่มใน Ma5bot
ได้ที่Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/ma5bot
Facebook Group: https://www.facebook.com/groups/267012221875488
Youtube Channel: https://www.youtube.com/channel/UCA2RjvOroJm98_3cUWJGVkg
#ma5traderteam #MA5BOT #มหาบอท #ma5community #cryptocurrency #robot #MA5 #tradefuture #Rebalance

บนกระดานเทรด Binance และ OKEx – มหาบอทใช้ชีวิตให้มีกำไร
139 Responses
Comments are closed.