สนับสนุนบทความดีๆ โดย @ma5bot มหาบอท ซอฟแวร์อัจฉริยะ ช่วยเทรดคริปโต 24 ชม.
MA5BOT มหาบอท ใช้ชีวิตให้มีกำไร
นักเทรดหน้าใหม่และมือเก๋าต้องรู้จักกับ MACD หรือ Moving Average Convergence Divergence คิดค้นขึ้นจากคุณ Gerald Appel ผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหารทรัพย์สินมือฉมัง เป็นเครื่องมือซัพพอร์ตการเทรดประเภท Momentum Indicator หรือเครื่องมือที่ใช้สำหรับวัดการแกว่งตัวของราคา เพื่อดูว่าในช่วงเวลานั้น
ตลาดมีการซื้อจำนวนมากหรือมีการขายจำนวนมาก เพราะหากมีการซื้อจำนวนมากจะทำให้เกิดแรงขายกลับคืนมา หรือหากเกิดการขายจำนวนมากจะทำให้เกิดแรงซื้อกลับคืนมานั่นเอง โดยพื้นฐานแล้วกลยุทธ์นี้เป็นการนำ Exponential Moving Average (EMA) ที่ช่วงเวลาต่างกันมาคำนวณหาสัญญาณซื้อขาย และแนวโน้มของตลาด เช่น การคาดการณ์โมเมนตัมของตลาด การเปลี่ยนแปลงของราคา และ Breakout ที่อาจเกิดขึ้น จะมีองค์ประกอบของอินดิเคเตอร์ตัวใดบ้าง แอดมินจะพาทุกคนมาเจาะลึกไปพร้อมกัน
MACD ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ MACD Line, Signal Line และ Histogram ซึ่ง MACD มักจะแสดงเป็นกราฟใต้กราฟราคา เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของราคา และการเปลี่ยนแปลงของ MACD ได้
MACD Line
คำนวณได้โดยการลบ Moving Average ที่ยาวกว่ากับ Moving Average ที่สั้นกว่า ซึ่ง MACD จะผันผวนด้านบนและด้านล่างของเส้นศูนย์ เมื่อเส้น Moving Average นั้นเคลื่อนที่มาบรรจบ ตัดกัน และแยกจากกัน จะสามารถหาสัญญาณ Signal Line Crossover, Centerline Crossover และ Divergence ได้
โดยทั่วไปเราสามารถสังเกตเห็นสัญญาณซื้อได้เมื่อ MACD Line เคลื่อนตัวเหนือเส้นศูนย์ หรือเหนือ Signal Line และสัญญาณขายเมื่อ MACD Line เคลื่อนตัวตัดเส้นศูนย์ หรือใต้ Signal Line
Signal Line
ใช้เพื่อดูแนวโน้มราคาประกอบกับ MACD Line ซึ่ง Signal Line Crossover เป็นสัญญาณที่พบได้บ่อยที่สุด โดยมีอยู่ 2 ลักษณะ คือ Bullish Crossover เกิดขึ้นเมื่อ MACD มีทิศทางขึ้นและตัดขึ้น Signal Line และ Bearish Crossover เกิดขึ้นเมื่อ MACD มีทิศทางลงและตัดลง Signal Line
Histogram
เรียกอีกอย่างว่าเป็น Indicator ของ MACD ที่ใช้เส้นศูนย์เป็นเส้นฐาน ซึ่งสามารถใช้จับสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมได้เร็วกว่า Signal Line Crossover ในบางครั้ง โดยดูจากการเปลี่ยนแปลงของ Slope ของ Histogram เช่น Histogram จะเป็นบวกเมื่อ MACD สูงกว่า Signal Line และจะเป็นลบเมื่อต่ำกว่า นักเทรดสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงของ Histogram เพื่อดูจุดซื้อจุดขายได้เช่นกัน โดย Slope ที่เป็นบวกพุ่งสูงขึ้นและเริ่มลดลง เป็นสัญญาณขาย ในทางกลับกัน เมื่อ Slope ที่เป็นลบเริ่มขยับขึ้นจะแสดงถึงสัญญาณซื้อนั่นเอง
ในส่วนของเส้นแต่ละเส้นนั้น มีสูตรคำนวณดังนี้
MACD = EMA(12) – EMA(26)
Signal Line = EMA(9) ของ MACD
Histogram = MACD – Signal Line
การทำความเข้าใจในเรื่องของการคำนวณหาค่าเส้นนั้นค่อนข้างยาก แอดมินจึงมีตัวช่วยให้นักลงทุนทุกคนบน Tradingview ตัวช่วยตั้งค่ากลยุทธ์ MACD ได้ง่าย ๆ เป็นเครื่องมือสำเร็จรูป โดยสามารถใส่ตัวเลขมาตรฐานของ MACD ได้แก่ 9 12 และ 26 ได้เลย
ซึ่งแต่ละตัวเลขมีเงื่อนไขคือ
EMA (9) = ค่า EMA ของช่วงระยะเวลา 9 หน่วยตาม Time Frame
EMA (12) = ค่า EMA ของช่วงระยะเวลา 12 หน่วยตาม Time Frame
EMA (26) = ค่า EMA ของช่วงระยะเวลา 26 หน่วยตาม Time Frame
โดยแต่ละตัวเลขคือการนับแท่งเทียนย้อนหลังนั่นเอง เป็นตัวเลขมาตรฐานที่นักเทรดทั่วโลกนิยมใช้ แม้นักลงทุนจะสามารถใส่ตัวเลขอื่น ๆ ตามความพึงพอใจ แต่ข้อดีของการใช้เลขมาตรฐานคือ การเทรดที่อิงตามแรงซื้อขายของการเทรดของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นการใช้เลขชุดนี้ที่คนนิยม ก็มีโอกาสที่จะเทรดได้ถูกทางมากขึ้นนั่นเอง
มาถึงตรงนี้ นักลงทุนคงได้รู้จัก MACD และที่มากันไปแล้ว ส่วนในสัปดาห์หน้า แอดมินจะพาไปทดสอบบนกราฟจริงกันว่าอินดิเคเตอร์ MACD จะช่วยซัพพอร์ตการเทรดของนักลงทุนทุกคนยังไง! อย่าลืมกดติดตาม @MA 5 Bot เพื่อให้ไม่พลาดคอนเทนต์ภาคต่อกันนะ
ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ
สนใจสอบถามรายละเอียดการใช้ MA5BOT
ติดต่อ LINE OA: @ma5bot
LINE OA: https://lin.ee/0OinA7X
ติดตามข้อมูลอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับ Crypto ในทุกช่องทางและเข้าร่วมกลุ่มใน Ma5bot
ได้ที่Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/ma5bot
Facebook Group: https://www.facebook.com/groups/267012221875488
Youtube Channel: https://www.youtube.com/channel/UCA2RjvOroJm98_3cUWJGVkg
#ma5traderteam #MA5BOT #มหาบอท #ma5community #cryptocurrency #robot #MA5 #tradefuture #rebalance
